Page 24 - วารสารสายตรงศาสนา ปีที่ ๒๐ ฉบับที่ ๖ (สิงหาคม - กันยายน ๒๕๖๖)
P. 24

พระบัญญัติประการที่ ๖ “อยาผิดประเวณี” เปนพระบัญญัติที่สั่งใหมนุษยละเวนการกระทำทุกอยางที่ผิดตอความบริสุทธิ์
             เชน การมีเพศสัมพันธกับผูที่มิใช สามีภรรยาของตน หรือการมีเพศสัมพันธกันกอนแตงงาน หรือการกระทำผิดตอความบริสุทธิ์
             ดวยตัวเอง เปนตน จะถือวาพระบัญญัติประการที่ ๖ นี้ เปนการกระทำผิดดวยการกระทำอยางตรงไปตรงมาเลยก็วาได


                                            พระบัญญัติประการที่ ๙ “อยาปลงใจผิด ประเวณี” เปนพระบัญญัติที่หามการคิด
                                     ปรารถนา การมอง การอาน หรือพฤติกรรมตาง ๆ อันนําไปสูการกระทำผิดตอความบริสุทธิ์

                                            แนนอนวาในความออนแอประสามนุษย บางครั้งเราอาจ ตกอยูในบาปนี้ดวยเหมือนกัน
                                     และเราจะถูกประจญลอลวงใหตกอยูในบาปนี้อยางงายดาย โดยเฉพาะในสังคมปจจุบันที่เต็มไป
                                     ดวยสื่อลามกอนาจารมากมาย ไมวาจะเปนสื่อ สิ่งพิมพ สื่อ ภาพยนตร หรือแมกระทั่งสื่อที่เปน

                                     มนุษยดวยกันเอง เชน การแตงเนื้อแตงตัวของบางคน อากัปกิริยา การแสดงออก คําพูดจา ที่สอ
                                     ไปในทางลามก...



                    การพบเห็นสิ่งเหลานี้ โดยทั่วไปยังมิใชความผิดหรือบาป แตประการใด เชน
             เห็นหนังสือที่วางขายอยูตามแผงหนังสือ มีรูปภาพหรือเรื่องราวที่ไมดีและเราก็ผานไป

             มิไดสนใจ แตถาหากเราสนใจหยิบมาอานมาดูและปลอยความอยากรู อยากเห็นดำเนิน
             ตอไป อยางนี้เปนบาปและความผิดแลว หรือเราเห็นใครแตงตัว ไมเรียบรอยและ
             เราปลอยตัวปลอยใจไปตามความคิด อยางนี้ก็เปนบาปเหมือนกัน และถายิ่งเราเปน

             ผูชายหรือเปนผูที่แตงตัวไมเรียบรอยเสียเอง ความผิดหรือบาปนั้นยิ่งทวีขึ้นมากมาย
             เพราะเราเปนสาเหตุใหเกิดการกระทำผิดในเรื่องนี้โดยตรง

                    การกระทำผิดตอพระบัญญัติประการที่ ๖ และ ๙ นี้ นับเปน บาปหรือ
             การกระทำผิดที่เกิดขึ้นงาย ๆ และหลายครั้งเปน ความผิดสวนตัวที่เกิดขึ้นแบบลับ ๆ
             คนอื่นไมรู แตทุกครั้งเราสังเกตไดวา มโนธรรมของผูนั้นจะตําหนิติเตียนตนเองเสมอ

             และถาไมแกไขก็ชินชากับความผิดหรือบาปนั้น และจะยิ่งยากแกการเยียวยามาก
             ยิ่งขึ้นตามไปดวย

                    สภาพของสังคมทั่วไปเวลานี้ลวนแลวแตเอื้อตอการกระทำ ผิดตอพระบัญญัติ
             ประการที่ ๖ และ ๙ อยางมาก ไมวาจะมาจากแหลงเริงรมย สถานบันเทิงตาง ๆ
             การขาดจิตสํานึกของคนในเรื่อง ของคุณธรรมความดี หรือพูดงาย ๆ ก็คือ “ศีลธรรมเสื่อม”

                    นั่นเอง คนเราถือวาการกระทำผิดในเรื่องเพศ ผิดลูกผิดเมียเปนเรื่องธรรมดา
             สลับสับเปลี่ยนคูกันเปนวาเลน เห็นการมีเพศสัมพันธเปนเพียงเรื่องของการตอบสนอง

             ความใคร สนองตัณหาของตนเทานั้น สิ่งตาง ๆ เหลานี้ทำใหชีวิตมนุษยถูกลดคุณคาลง
             มาอยางนาใจหาย

                                        สิ่งที่จะชวยปองกันความผิดในเรื่องนี้มีหลายอยางหลายประการเหมือนกัน

                                        การภาวนาเปนวิธีสำคัญที่สุดเพราะจะทำใหชีวิตของเราใกลชิดสนิทกับพระเจามากยิ่งขึ้นและ
                                แนนอนวาชีวิตของผูที่ใกลชิดสนิทกับพระยอมจะไมกระทำผิดอะไรไดงาย ๆ การมีพระเจาอยูกับตนจะ

                                ทำใหเราเขมแข็งมีพลังที่จะเอาชนะการประจญลอลวงตาง ๆ ไดอยางงายดาย... เราจะมีจิตสํานึกวา
                                รางกายของเราเปนวิหารของพระเปนเจา เราจะมีแรงบันดาลใจที่จะดูแลใหบริสุทธิ์ผุดผองที่สุด

                                        การรับศีลศักดิิ์สิทธิ์ตาง ๆ ถือเปนการเพิ่มพลังดวยพระพรของพระเจาโดยตรง เปนตน
                                ศีลอภัยบาป และศีลมหาสนิท...



              ๒๔  วารสารสายตรงศาสนา
   19   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29