Page 93 - ธรรมะจากธรรมาสน์ เล่ม ๓
P. 93

ธรรมะจากธรรมาสน เลม ๓



              ตั้งใจว่า จะไม่กระท�าความชั่วนั้นอีกอย่างเด็ดขาด โดยพิจารณาในเวลาก่อนนอนว่า “วันนี้ตั้งแต่
              เช้าจนถึงก่อนนอนนี้ เรามีความผิดได้กระท�าความชั่วความเสียหายอย่างไรบ้าง ถ้าระลึกว่า

              ได้ท�าความเสียหายไว้ ก็ให้พิจารณาว่า ทั้ง ๆ ที่เราเพียรระวังจะไม่ท�าความชั่วอยู่แล้ว

              แต่เหตุไฉนจึงเผลอกระท�าความชั่วขึ้นมาอีก ก็ได้ทราบว่า เปนเพราะเหตุไร เมื่อได้

              ทราบเหตุแล้ว ก็ตั้งใจไม่กระท�าความผิดเช่นนั้นต่อไป ดังนี้แล้วจึงนอน เมื่อนอนหลับแล้ว

              ตื่นในวันรุ่งขึ้น ก็ให้นึกถึงข้อก�าหนดที่ได้กระท�าไว้ก่อนนอน และไม่กระท�าความชั่ว
              อย่างที่ตนได้เคยกระท�ามาแล้วอีก” นี้ชื่อว่า “เพียรละความชั่วที่เกิดขึ้นแล้ว”

                      ๓. เพียรให้ความดีเกิดขึ้นในใจ หมายความว่า เมื่อเพียรระวังไม่ให้ความชั่วเกิดขึ้นและ

              เพียรละความชั่วที่เกิดขึ้นด้วยความพลั้งเผลอได้แล้ว ก็ต้องรีบท�าความดีแทนที่ความชั่วด้วย

              เพราะถ้าไม่รีบท�าความดีแทนที่ความชั่วแล้ว ก็จะเกิดช่องว่าง เปิดโอกาสให้ท�าความชั่วได้อีก
              เหตุนั้นจึงต้องรีบท�าความดี ปิดโอกาสไม่ให้ท�าความชั่ว เพราะจิตใจมีลักษณะเหมือน

              ภาชนะใส่ของ คอยรองรับอารมณ์อยู่เป็นนิตย์ เมื่อใดคิดดี เมื่อนั้นความคิดชั่วก็ไม่มี

              แต่เมื่อใดคิดชั่ว เมื่อนั้นความคิดดีก็ไม่มี ดังนั้น ความดีและความชั่วจึงคอยโอกาสที่จะแย่งกัน

              เข้าครอบครองใจอยู่เป็นนิตย์ ฉะนั้นจึงต้องเพียรให้ความดีเกิดขึ้นในใจ
                      ๔. เพียรรักษาความดีที่เกิดขึ้นแล้ว ไม่ให้เสื่อมไป หมายความว่า เมื่อได้สร้างสม

              คุณงามความดีให้เกิดมีขึ้นในใจแล้ว ก็ต้องเพียรรักษาคุณงามความดีนั้นไว้ ไม่ให้เสื่อมสิ้นไป

              ให้มีอยู่ตลอดไป เพราะว่าความดีกับความชั่วคอยฉวยโอกาสที่จะเข้าครอบครองจิต

              กันอยู่เสมอ ฝายใดเผลอ เป็นถูกอีกฝายหนึ่ง ซึ่งคอยฉวยโอกาสอยู่แล้ว เข้าครอบครองจิตทันที
              เหตุนั้น ความดี ที่ได้ท�าให้เกิดขึ้นแล้ว จึงต้องพยายามรักษาไว้ เปรียบเหมือนคนที่แสวงหา

              ทรัพย์ไว้ได้แล้ว ถ้าใช้หมดสิ้นไป ก็เป็นคนไม่มีทรัพย์ ต่อเมื่อแสวงหาได้แล้ว เก็บรักษาให้ดี

              ก็ได้ชื่อว่า เป็นคนมีทรัพย์ ไม่ยากจน คุณงามความดีก็เหมือนกัน เมื่อท�าให้เกิดมีขึ้นแล้ว

              ก็ต้องพยายามรักษาไว้ให้ดี มีมากเท่าใด ก็เป็นปัจจัยเกื้อกูลให้เกิดความสุขใจเท่านั้น ดังนั้น
              จึงต้องเพียรรักษาความดีที่เกิดขึ้นแล้วไม่ให้เสื่อมไป ความเกียจคร้านมีความเพียรย่อหย่อน

              มักอ้างเหตุต่าง ๆ แล้วไม่ท�างาน เป็นต้นว่า เมื่อเราท�างานก็ต้องเหน็ดเหนื่อย ก็เลยนอนเสีย

              แล้วไม่ท�างาน เมื่อเราท�างานเสร็จแล้ว ถ้าท�าอีกก็ต้องเหนื่อยอีก เลยนอนเสียไม่ยอมท�างาน

              และอ้างว่า เวลานี้ยังเช้าอยู่แล้วไม่ท�างาน เวลานี้หนาวนักแล้วไม่ท�างาน เวลานี้ร้อนนัก
              แล้วไม่ท�างาน ปล่อยให้งานคั่งค้างจนท�าไม่ไหว ท�าไม่ส�าเร็จ เมื่อท�างานอะไร ๆ ไม่ส�าเร็จ

              ก็ไม่มีคุณงามความดีอะไร ที่จะเป็นที่พึ่งของตนและคนอื่นได้เลย




                                                                                                87
   88   89   90   91   92   93   94   95   96   97   98