Page 92 - ธรรมะจากธรรมาสน์ เล่ม ๓
P. 92
ธรรมะจากธรรมาสน เลม ๓
การฟงธรรม นอกจากจะเปนการส่งเสริมคุณธรรมในส่วนแห่งทานและศีล
อันเปนบุญขั้นพื้นฐานและขั้นกลางที่ได้ท�ามาแล้ว ยังเปนการเพิ่มพูนบุญในส่วนแห่งภาวนา
อันเปนบุญขั้นสูง ท�าให้มีผลไพบูลย์ยิ่งขึ้น เพราะการฟังธรรมนั้น เป็นการพัฒนาปัญญา
เป็นส่วนที่ส�าคัญที่สุดในชีวิต พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดง อานิสงส์แห่งการฟงธรรมไว้ คือ
ได้ฟงสิ่งที่ยังไม่เคยได้ฟง ได้ความรู้แปลกใหม่ บรรเทาความสงสัย มีจิตใจมั่นคง ไม่หลงผิด
ในการด�าเนินชีวิต ดังนั้น การฟงธรรม จึงมีอุปการะแก่ผู้ที่มุ่งท�าบุญเปนอย่างมาก เพราะ
เป็นประโยชน์ในการพัฒนาความเป็นอยู่ของตน ครอบครัว ตลอดถึงสังคม ไม่ให้หลงทาง แต่ให้
ด�าเนินไปถูกทางอย่างมีคุณภาพ มีประสิทธิภาพและทรงไว้ซึ่งคุณธรรม ท่านสาธุชนทั้งหลาย
ตามพระบาลีที่ได้ยกขึ้นไว้เป็นเบื้องต้นแปลความว่า “คนที่เกียจคร้าน มีความเพียรย่อหย่อน
มีชีวิตอยู่ตั้งร้อยปี ไม่ประเสริฐเลย ส่วนชีวิตของคนที่ปรารภความเพียรอย่างมั่นคง แม้
จะเปนอยู่ได้เพียงวันเดียว ก็ยังประเสริฐกว่า”
ความเพียร เปนคุณธรรมพยุงจิต ไม่ให้คิดย่อท้อในการประกอบการงาน มีหน้าที่
เป็นกลาง ไม่ดีและไม่ชั่ว แต่เมื่อเข้าไปสนับสนุนในกิจการใด ๆ ย่อมท�ากิจการนั้น ๆ ให้แรงขึ้น
ทั้งทางถูกและทางผิด เหตุนั้น พึงพิจารณาใช้ความเพียรแต่ในทางที่ชอบ เพราะเหตุว่า
ความเพียรนี้ ถ้าคนไม่ดีน�าไปใช้ในทางที่ผิด ไม่ชอบไม่ควรแล้ว ก็จะก่อให้เกิดโทษภัย
อย่างใหญ่หลวง เป็นเหตุให้เกิดความเดือดร้อนทั้งแก่ตนและคนอื่นเป็นอันมาก พระสัมมา
สัมพุทธเจ้าตรัส ความเพียรไว้ ๔ ประการ คือ
๑. เพียรระวังไม่ให้ความชั่วเกิดขึ้นในใจ หมายความว่า ตามปกติ ใจของคนเรา
บริสุทธิ์ สะอาด ไม่มีบุญ ไม่มีบาป สิ่งที่ต้องเพียรระวังปองกัน ไม่ให้เกิดมีขึ้นแก่ใจเป็นอันดับแรก
คือ ความชั่ว ได้แก่ การท�า การพูด การคิด ด้วยอ�านาจความโลภ โกรธ หลง เป็นไปเพื่อ
เบียดเบียนตนและคนอื่น ให้เกิดความเดือดร้อน ความชั่วนี้ ต้องเพียรระวังไม่ให้
เกิดขึ้นเลยเป็นการดี เพราะถ้าปล่อยให้เกิดขึ้นแม้เพียงเล็กน้อย ก็จะก่อให้เกิดทุกข์ภัย
อย่างใหญ่หลวงในภายหลัง จะเห็นได้ดังไฟที่เกิดจากต้นไฟเพียงเล็กน้อย หรือจากไม้ขีดไฟ
เพียงก้านเดียว ก็จะลุกลามใหญ่โต สามารถเผาผลาญบ้านเรือนได้ ความชั่วก็เช่นเดียวกัน
ไม่ควรดูหมิ่นว่า มีประมาณเพียงเล็กน้อยเท่านั้น จะไม่ให้ผล ความชั่วเพียงเล็กน้อยนั่นแหละ
จะพอกพูนมากขึ้นทุกที แล้วจะท�าความพินาศให้แก่ตนและคนอื่นอย่างประมาณมิได้ เหตุนั้น
จึงต้องเพียรระวังปองกันไม่ให้ความชั่วเกิดขึ้นได้ในใจ
๒. เพียรละความชั่วที่เกิดขึ้นแล้ว หมายความว่า เมื่อรู้ตัวอยู่ว่า ตนได้กระท�าความชั่ว
ขึ้นแล้ว ด้วยความพลั้งเผลอหรือด้วยความเข้าใจผิด เช่นนี้แล้ว ก็ต้องเพียรละความชั่วนั้นเสีย
86