Page 87 - ธรรมะจากธรรมาสน์ เล่ม ๓
P. 87
ธรรมะจากธรรมาสน เลม ๓
การเบียดบังทรัพย์นั้น ยิ่งไปกว่านั้นเธอเห็นเองว่า “อริยทรัพย์ภายในที่เธอได้รับจากการ
ฟงธรรมของพระพุทธเจ้ามีค่ายิ่งกว่าทรัพย์ภายนอก เธอมีความสันโดษ คือ ความรู้จักพอ
ขึ้นในใจ จึงไม่ปรารถนาที่จะเบียดบังเงินค่าดอกไม้อีกเลย” ทั้งนี้ เพราะสันโดษ คือ ความพอใจ
ตามมี ยินดีตามได้ ท�าให้เกิดความพอเพียงดังพระบาลีที่ว่า “สันตุฏฐี ปะระมังธะนัง ความ
รู้จักพอเปนยอดทรัพย์” สมด้วยภาษิตอุทานธรรมที่ว่า
“ความไม่พอใจจนเปนคนเข็ญ พอแล้วเปนเศรษฐีมหาศาล
จนทั้งนอกทั้งในไม่ได้การ จงคิดอ่านแก้จนเปนคนมี”
ด้วยเหตุนี้ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงที่ สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจ้า
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๙ ได้พระราชทานแก่ พสกนิกรชาวไทยและชาวโลก
ย่อมเป็นหลักการด�าเนินชีวิตที่ปองกันการทุจริตและประพฤติมิชอบได้อย่างมีประสิทธิภาพยิ่ง
โอตตัปปะ ความกลัวบาป เกิดจากการนึกถึงภัยหรือความทุกข์ที่เป็นผลจาก
การท�าบาป ความกลัวบาปที่ควรนึกถึงมี ๔ ประการ คือ
๑) อัตตานุวาทภัย ความกลัวถูกตนเองต�าหนิติเตียน หมายถึง กลัวการมีวิปปฏิสาร
หรือความส�านึกผิดที่จะคอยติดตามเผาลนจิตใจ
๒) ปรานุวาทภัย ความกลัวผู้อื่นติเตียน หมายถึง กลัวการถูกสังคมประณามหรือ
กลัวการถูกสื่อมวลชนประจาน เป็นต้น
๓) ทัณฑภัย ความกลัวถูกลงอาญา หมายถึง กลัวโทษปรับจองจ�าหรือประหารชีวิต
รวมทั้งการถูกยึดทรัพย์ตามที่กฎหมายก�าหนด
๔) ทุคติภัย ความกลัวทุคติ หมายถึง กลัวการรับโทษในนรก เป็นต้น ภายหลังจาก
สิ้นชีวิตไปแล้ว
โอตตัปปะ ความกลัวบาป ชนิดที่ ๔ คือ ทุคติภัยนี้ เป็นเรื่องที่ พระสารีบุตร ได้พยายาม
ปลูกฝังในใจของ ธนัญชานิพราหมณ์ แม้พระราชนิพนธ์ใน พระมหาธรรมราชาลิไท เรื่องไตรภูมิ
พระร่วง ก็สอนให้คนไทย กลัวบาปกรรม กลัวการตกนรกหมกไหม้ วรรณกรรมเรื่องไตรภูมิ
พระร่วงนี้ จึงได้ท�าหน้าที่คุ้มครองปองกันระบบศีลธรรมของสังคมไทยในอดีตมาอย่างยาวนาน
คนไทยสมัยโบราณ งดเว้นการประพฤติทุจริต เพราะกลัวผลแห่งบาปกรรม ตามกฎแห่งกรรม
ที่ว่า “ท�าดีได้ดี ท�าชั่วได้ชั่ว”
81