Page 58 - [E-Book] วันศาสนูปถัมภ์ พ.ศ. ๒๕๖๐
P. 58
พระมหากษัตริย์
กรมธรรมการ กรมสังฆการี กรมราชบัณฑิตย์
มีหน้าที่ มีหน้าที่ มีหน้าที่
รับภาระในการพิจารณา เป็นเจ้าพนักงานเกี่ยวกับ เป็นเจ้าพนักงานบอก
พิพากษาคดีที่พระภิกษุ พิธีสงฆ์ทั้งปวง หนังสือพระภิกษุสามเณร
สามเณรกระท�ากับ รวมทั้งการแปล
ฆราวาส พระปริยัติธรรม
ภารกิจด้านการพระศาสนาที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ มอบหมายให้หน่วยงานต่างๆ
ที่ทรงตั้งขึ้นไปด�าเนินการนั้น ถือเสมือนมอบหมายให้ปฏิบัติแทนพระองค์ต่างพระเนตรพระกรรณ
หากมีสิ่งใดที่สมควรกราบบังคมทูล หรือมีปัญหาที่ไม่สามารถวินิจฉัยได้ก็ต้องน�าความขึ้นกราบบังคมทูล
เพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ วินิจฉัยสั่งการ
เรื่องของกรมสังฆการี หรือสังฆการีธรรมการ หรือธรรมการสังฆการี ซึ่งเจ้ากรม
มีศักดินาเทียบชั้นเสนาบดีนี้ นอกจากจะเป็นกรมใหญ่แล้วยังเป็นกรมเก่าแก่กว่ากรมอื่นๆ
ในสังกัดกระทรวงธรรมการหรือกระทรวงศึกษาธิการทั้งหมด และมีอ�านาจหน้าที่เกี่ยวกับ
การศาสนา การจัดการคณะสงฆ์มาแต่โบราณ ดั่งปรากฏหลักฐานตามที่พระบาทสมเด็จ
พระจุลจอมเกล้าเจ้าอยูหัว รัชกาลที่ ๕ ทรงมีพระบรมราชาธิบายเกี่ยวกับกรมธรรมการสังฆการี
ไว้ดังนี้
“ กรมธรรมการสังฆการีนี้ ตามต�าแหน่งเดิมเป็นกรมใหญ่ ได้ตั้งธรรมการหัวเมืองว่า
ความพระสงฆ์ต่อพระสงฆ์ หรือพระสงฆ์เกี่ยวข้องกับคฤหัสถ์ ไม่ว่าความอย่างใด อ�านาจของ
กรมธรรมการที่เป็นอยู่บัดนี้ก็ไม่สู้ผิดกับแต่ก่อนมากนัก เป็นแต่ไม่มีอ�านาจที่จะตั้งธรรมการ
หัวเมือง ขาดไปพร้อมๆ กับกรมอื่นๆ แต่ธรรมการหัวเมืองก็ยังมีหนังสือบอกข่าวคราว
เหตุการณ์ซึ่งเกิดขึ้นในระหว่างพระสงฆ์หัวเมืองบ้างน้อยๆ ราย แต่กรมธรรมการมักจะได้
พูดจากับพระสงฆ์เจ้าคณะตามหัวเมืองนั่นเองเสียโดยมาก ถ้าเจ้าเมืองกรมการเมืองใด
จะขอตั้งเจ้าคณะหัวเมือง ก็ยังมีใบบอกมาที่กรมธรรมการนั้นด้วย คงอยู่อย่างแต่ก่อน
แต่ต�าแหน่งใหญ่คือที่พระยาพระเสด็จนั้นไม่ได้ตั้งมาเสียช้านาน ด้วยผู้ซึ่งจะเป็นขุนนาง
ในต�าแหน่งธรรมการนี้ ดูเหมือนจะใช้ผู้สนัดในทางวัดๆ ผู้ซึ่งสนัดในทางวัดๆ เช่นนั้น ก็คงต้องใช้
ที่เป็นคนบวชอยู่นาน เร่อร่างุ่มง่ามไม่สมควรเป็นขุนนางผู้ใหญ่ จึงได้ลดต�าแหน่งมีศักดินาน้อยลง
คงใช้เจ้านายไปก�ากับอยู่เสมอมา”
51
วันศาสนูปถัมภ พ.ศ. ๒๕๖๐