Page 72 - ธรรมะจากธรรมาสน์ เล่ม ๓
P. 72
ธรรมะจากธรรมาสน เลม ๓
ฆราวาสธรรมกถา
แสดงโดย พระศรีวินัยโสภณ วัดราชาธิวาสวิหาร
เขตดุสิต กรุงเทพฯ
วันเสารที่ ๑๗ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๐
นะโม ตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ)
ยสฺเสเต จตุโร ธมฺมา, สทฺธสฺส ฆรเมสิโน,
สจฺจํ ทโม ธิติ จโค, ส เว เปจฺจ น โสจตีติ.
วันนี้เป็นวันพระธัมมัสสวนะอุโบสถ ถึงกาลก�าหนดแสดงธรรมแลสดับตรับฟัง
พระธรรมเทศนาของท่านสาธุชนทั้งหลาย จึงจักได้แสดงพระธรรมเทศนาใน “ฆราวาส
ธรรมกถา” พรรณนาธรรมของฆราวาสผู้ครองเรือนจะพึงมี ๔ ประการ ตามกระแสพระบาลี
พุทธภาษิตบรรหารที่ได้สาธกยกเป็นนิเขปบท กระทู้ความในเบื้องต้นนั้น ด�าเนินความว่า
สมเด็จพระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้าของเราทั้งหลาย พระองค์ทรงประกอบด้วย
พระมหากรุณาแสวงหาประโยชน์แก่สรรพสัตว์อยู่เป็นนิตย์ ทรงบ�าเพ็ญพุทธกิจประทาน
พระธรรมเทศนาโปรดเวไนยชนให้ได้ประสบผลดีงามทั้งในปัจจุบันและสัมปรายภพ ทรงชักน�า
ในความสงบระงับดับโทษทุกข์ เวรภัย ตามอุปนิสัยของเวไนยนั้น ๆ ทั้งคฤหัสถ์แลบรรพชิต
พระพุทธภาษิตเฉพาะคฤหัสถ์ตรัสสอนไว้ เช่น ในอาฬวกสูตรซึ่งได้ทรงเทศนาพยากรณ์
แก้ปัญหา ยกศรัทธาขึ้นเป็นเบื้องต้นนั้นว่า “ยสฺเสเต จตุโร ธมฺมา” เป็นอาทิมีความว่า
“ธรรม ๔ ประการ คือ ความสัตย์ ความข่มใจ ความอดทน และการสละให้ของบุคคลใด
เปนคฤหัสถ์ประกอบด้วยศรัทธามีอยู่ บุคคลนั้นแลละโลกนี้ไปแล้วย่อมไม่เศร้าโศกเลย
ดังนี้” ในคาถาพุทธภาษิตนี้ ทรงยกศรัทธาขึ้นเป็นวิหารธรรมทั่วไป ไม่จ�ากัดของคฤหัสถชน
เพราะบุคคลผู้ครองเรือน สมควรมีศรัทธาเชื่อกรรม เชื่อผลเป็นพื้นอัธยาศัย จึงจะตั้งตนไว้
ในทางที่ชอบ ประกอบกิจการงานที่ปราศจากโทษ ไม่เห็นแก่ประโยชน์ส่วนตนถ่ายเดียว
รู้จักแลเหลียวถึงประโยชน์ของผู้อื่น ด�ารงตนอยู่ในสัมมาอาชีวะ เลี้ยงชีวิตด้วยอาชีพที่ชอบ
ประกอบด้วยสุจริตไม่ผิดศีลธรรม ย่อมสามารถจะครองฆราวาสวิสัย ให้เจริญรุ่งเรืองไพบูลย์
เป็นประโยชน์เกื้อกูลการประพฤติธรรมสัมมาปฏิบัติยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วยดี คฤหัสถชนคนครองเรือน
เมื่อมีศรัทธาอยู่ประจ�าเป็นวิหารธรรมแล้วเช่นนี้ มีธรรมโดยตรงที่จะพึงปฏิบัติเป็นหน้าที่
66