Page 44 - ธรรมะจากธรรมาสน์ เล่ม ๓
P. 44
ธรรมะจากธรรมาสน เลม ๓
๑. “อุ” ก็มาจากค�าว่า “อุฏฐานสัมปทา” แปลว่า ถึงพร้อมด้วยความหมั่น
“อุฏฐานะ” แปลว่า การลุกขึ้น ตรงกันข้ามกับการนอน “นอนนานงานน้อย ใช้บ่อยจึงหมด”
การลุกขึ้นท�าการงาน ก็หมายถึง ความหมั่นความขยัน กล่าวคือ ไม่เกียจคร้าน คนเกียจคร้าน
ก็คือ คนที่เอาแต่นอน อ้างหนาว อ้างร้อน อ้างหิวกระหาย เช้า - สาย - บ่าย - เย็น แล้วก็
ไม่ยอมท�างาน เขาว่า “คนเกียจคร้านเกิดมาเปนกาฝากสังคม” ยิ่งถ้าเกิดมาบนกองเงินกองทอง
ด้วยแล้ว ยิ่งถูกความรวยความมั่งมีมอมเมาให้เพลิน อาจจะกลายเป็นคนเสียคนได้เรียกว่า
เห็นงานยาก งานหนัก งานใหญ่ เป็นของเหลือวิสัย แม้งานง่าย ๆ งานเล็ก ๆ งานน้อย ๆ
ก็เห็นว่า เป็นงานหนัก สุดท้ายก็กลายเป็นคนงอมืองอเท้า ไม่ท�าอะไรให้เป็นชิ้นเป็นอัน
เรียกว่า ชอบแต่ความสะดวกความสบาย คอยเลี่ยงคอยหลบที่ยาก หนาวก็นอน ร้อนก็หนี
หลบที่หนักไปหาที่เบาหวังแต่ความสุข ไม่นึกถึงความทุกข์อันจะตามมา เป็นคนชอบผล
แต่เบื่อจะกระท�าเหตุ เมื่ออยู่ในวัยที่อาศัยพ่อแม่ ก็อาศัยแบบกาฝากอาศัยต้นไม้ ธรรมดา
กาฝากเพียงแต่เกาะกินต้นไม้ที่อาศัยฝายเดียว ไม่หยั่งรากโอบอุ้มต้นไม้ที่ตนอาศัยอยู่และไม่
ปล่อยรากลงสู่พื้นดินเพื่อที่จะตั้งตัว เมื่อต้นไม้ที่ตนอาศัยตาย ตนเองก็พลอยตายตามไปด้วย
ส่วนคนขยันท่านจัดว่า เป็นคนรักงาน ถืองานเป็นชีวิต จึงมุ่งมั่นท�างาน สู้ยากก่อนเพื่อง่ายในภายหลัง
ฝาทุกข์ไปสู่ความสุขข้างหน้า กล้าต่อสู้กับอุปสรรคนานาประการ เมื่ออยู่ในวัยที่ต้องอาศัย
พ่อแม่ ย่อมอาศัยอยู่ดุจไม้ไทรอาศัยไม้อื่นอยู่ ท่านว่า ธรรมดาไม้ไทรเมื่ออาศัยต้นไม้อื่น
ก็จะพยายามหยั่งรากโอบอุ้มต้นไม้ที่ตนอาศัยอยู่ และก็จะปล่อยรากจนตั้งตัวได้ เมื่อต้นไม้
ที่ตนอาศัยตาย แต่ตนเองหาตายตามไปไม่ คนที่มีนิสัยหมั่นขยันก็ฉันนั้นเหมือนกัน
ขณะอาศัยพ่อแม่ก็เชื่อฟังตั้งอยู่ในโอวาท พยายามศึกษาเล่าเรียนและท�างานแบบว่า
อย่างหนักเอาเบาสู้ เพราะยึดภาษิตสอนใจไว้ว่า “ปูไม่มีหัวต้วมเตี้ยมมันพาตัวไปได้ งูไม่มีตีน
ปายปีนต้นไม้ได้ ไก่ไม่มีถันมันเลี้ยงลูกใหญ่สืบพืชพันธุ์ให้เราได้ คนเราทั้งสิ้นอย่าหมิ่นลบคม
ชายชาติอุดมอาจมีได้ บางคนยากไร้เมื่อได้เสาะหาตั้งตัวได้มาเห็นอยู่มากมาย” การท�างาน
ทุกสาขาอาชีพด้วยความหมั่นขยัน เรียกว่า มีความบากบั่นไม่ทอดธุระเปนลักษณะของ
“อุ” ที่เรียกว่า “อุฏฐานสัมปทา”
๒. “อา” มาจากค�าว่า “อารักขสัมปทา” แปลว่า ถึงพร้อมด้วยการรักษา ตามหลัก
ทางศาสนาก�าหนดให้รักษาทรัพย์ที่แสวงหามาได้ ไม่ใช่ว่าได้มาเท่าไรก็จ่ายไปทั้งหมด
ยังมีส�านวนพูดว่า “รายได้ไม่ส�าคัญเท่ากับรายเหลือ บางคนมีรายได้เปนจ�านวนมากขาด
แต่ยังไม่มีส่วนเหลือ บางคนมีรายได้ไม่มากแต่ยังมีส่วนเหลือ” การที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะ
38