Page 53 - ธรรมะจากธรรมาสน์ เล่ม ๓
P. 53
ธรรมะจากธรรมาสน เลม ๓
ผิวงาม ที่เรียกว่า ผุดผ่องดั่งยองใย ขาวนวลไม่มีกระ วรรณะผ่องใส งามตามธรรมชาติ
เนื้องาม ที่เรียกว่า เนื้อนวล เนื้อเนียน เนื้อนิ่ม ได้แก่ เนื้อไม่หยาบ ริมฝีปากสวย
สีชมพู เวลายิ้มเห็นเหงือกแดง เหงือกไม่ด�า ริมฝีปากไม่ด�า แดงออกสีชมพู
กระดูกงาม ค�าว่า กระดูกงาม หมายถึง ฟันของ นางวิสาขา นั้น เป็นฟันเรียบเรียง
เป็นระเบียบ สีขาวเหมือนไข่มุก ฟันเรียงสม�่าเสมอเป็นระเบียบไม่เก เรียกว่า ไม่มีเขี้ยว
เรียบร้อยสวยงาม
วัยงาม นางวิสาขา ได้ชื่อว่า เป็นผู้มีวัยงาม ท่านอุปมาว่า เหมือนกับบุคคลบางคน
ที่ผ่านการอุ้มครรภ์คลอดบุตรมาแล้ว ๑๐ ครั้ง ก็ยังเหมือนคนที่เพิ่งผ่านการคลอดบุตร
เพียงครั้งเดียว ทรวดทรวงองค์เอวไม่เสีย ไม่แก่ ไม่โทรม แต่ที่งามยิ่งกว่านั้น คือ นางวิสาขา
งามทั้งภายนอกและภายใน อุดมด้วยทรัพย์สมบัติและคุณสมบัติ เป็นคนที่มีจิตใจงาม
และมารยาทงาม ที่จิตใจงามเพราะใจบุญ ได้ชื่อว่า เป็นผู้ที่ไม่เคยมีมือเปล่าเข้าวัด คือ เวลาเข้าวัด
ก็จะมีวัตถุสิ่งของติดไม้ติดมือมาถวายพระเป็นประจ�า แสดงให้เห็นถึงความเป็นผู้มีใจบุญ
ใจกุศล เลื่อมใสศรัทธาต่อพระเจ้าพระสงฆ์และพระรัตนตรัยเป็นอันมาก มีมารยาทงาม
เป็นกุลสตรีที่เป็นแม่แบบของสตรีทั้งหลาย จะเดินก็งาม จะนั่งก็งาม เวลาฟาฝนตกคนอื่น
กลัวเปียกก็จะพากันวิ่ง แต่ นางวิสาขา ค่อย ๆ เดินละเมียดละไม ที่เรียกว่า ละไมพร้อมละม่อมพริ้ง
กิริยามารยาทงดงาม สมเป็นกุลสตรี เพราะฉะนั้น นางวิสาขา จึงได้รับ “เอตทัคคะ แปลว่า ได้รับ
การยกย่องว่า เปนเลิศกว่าผู้คนทั้งหลาย จากพระพุทธเจ้าว่า เปนมหาอุบาสิกา คือ อุบาสิกา
ผู้ยิ่งใหญ่ ผู้ใจบุญ เปนยอดของอุปฏฐายิกาในทางพระศาสนา” บทบาทของ นางวิสาขา
ได้รับการจารึกบันทึกไว้เป็นแบบแผน แบบฉบับ แบบอย่าง ในวงการของพุทธศาสนิกชนจนถึง
ทุกวันนี้นั้น ก็คือ “นางเปนคนแรกที่ได้ถวายผ้าอาบน�้าฝน เปนคนแรกที่ได้รับบรมพุทธานุญาต
ให้ถวายผ้าพระกฐิน” เป็นเหตุให้พวกเราได้ทอดกฐิน ถวายผ้าครอง ให้แก่พระสงฆ์ ผู้ด�ารง
พระศาสนามาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน และ วิสาขา นี่แหละ เป็นผู้มีศรัทธาอันยิ่งใหญ่
สร้างวัดบุพพาราม ถวายแด่พระพุทธเจ้า ถวายเป็นสมบัติแก่พระศาสนา เป็นเครื่องบูชา
พระพุทธเจ้า นี่คือ ความดี ความงาม ความเป็นเลิศของ นางวิสาขา
บัดนี้ อาตมาได้กะเทาะสาระข้อคิดคติธรรมจาก นางวิสาขามหาอุบาสิกา เป็นการ
เสริมธรรม เสริมปัญญา แด่พุทธบริษัท ก็หวังว่า เรื่องนี้จะเป็นเครื่องประเทืองปัญญา
ต่อท่านทั้งหลายตามสมควร บัดนี้ เหมาะควรแก่โอกาสและเวลา ขอยุติการแสดงพระธรรม
เทศนาไว้แต่เพียงเท่านี้ เอวัง ก็มีด้วยประการฉะนี้
47