Page 64 - [E-Book] วันศาสนูปถัมภ์ พ.ศ. ๒๕๖๐
P. 64

กรมสังฆการี มีหน้าที่
                            ๑. ส�ารวจและท�าบัญชีพระภิกษุสามเณรโดยแยกเป็นมณฑล ตามวุฒิ และสมณศักดิ์

                            ๒. จัดการบรรพชาอุปสมบท แต่งตั้งพระสังฆาธิการและพระสมณศักดิ์ พระอุปัชฌาย์
                   การสอบไล่พระปริยัติธรรม การตั้งไวยาวัจกร และการพระราชกุศล
                            ๓. ควบคุมและปราบปรามอลัชชีภิกษุ ตลอดจนตรวจการปกครองคณะสงฆ์

                            ๔. ตรวจบัญชีพระสงฆ์ให้ถูกต้อง ตรวจเหตุการณ์ซึ่งจะท�าความมัวหมองให้แก่คณะสงฆ์
                   ตรวจการปกครองเพื่อให้รู้ความเจริญและความเสื่อมแห่งคณะสงฆ์



                   กรมธรรมการ มีหน้าที่

                            ๑. ส�ารวจจัดท�าบัญชีวัด แยกเป็นประเภทวัดหลวง วัดราษฎร์ และวัดร้างทั่วราชอาณาจักร
                            ๒. ควบคุมการตรวจสอบการสร้างวัด รวมทั้งการขอพระราชทานวิสุงคามสีมา

                            ๓. จัดการท�านุบ�ารุงวัดและจัดการเกี่ยวกับศาสนสมบัติ
                            เมื่อได้มีการปรับปรุงกระทรวงธรรมการในปี พ.ศ. ๒๔๕๔ และพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้า
                   เจ้าอยู่หัว ทรงมีพระราชด�ารัสว่า หน้าที่ของกระทรวงนั้นควรจะมีอยู่ ๒ อย่าง คือ หน้าที่จัดการศึกษา

                   ให้แก่ปวงชน และดูแลส่งเสริมการพระศาสนาเท่านั้น การจัดระบบบริหารและมอบหมายหน้าที่
                   การงานก็ควรจะเป็นไปตามหน้าที่ดังกล่าว ดังนั้น ในปี พ.ศ. ๒๔๕๙ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ

                   ให้จัดแบ่งส่วนราชการและหน้าที่การงานในกระทรวงธรรมการเสียใหม่ ดังนี้



                                                     กระทรวงธรรมการ


                               กรมกลาง                 กรมธรรมการ                 กรมศึกษาธิการ

                      กองบัญชาการ              กรมสังฆการี            กรมพระอาราม         กองอธิกรณ์



                            ส�าหรับการพระอารามตามจังหวัดชั้นนอกในปี พ.ศ. ๒๔๖๐ เป็นปีแรกที่โปรดเกล้าฯ

                   ให้จัดข้าราชการส่วนภูมิภาคของกระทรวงธรรมการเป็นเจ้าหน้าที่ฝายการศาสนาสมทบกับ
                   การศึกษา และในปี พ.ศ. ๒๔๖๑ โปรดเกล้าฯ ให้เปลี่ยนชื่อกรมพระอารามเป็นกรมกัลปนา ต่อมา
                   ปี พ.ศ. ๒๔๖๒ พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ พระองค์ได้ทรงด�าริว่า

                            “  ราชการของกระทรวงธรรมการ  และกรมศึกษาธิการนั้น  ตางชนิดกันทีเดียว
                   ยากที่จะเลือกหาเจ้ากระทรวงผู้สามารถบัญชาการได้ดีทั้ง ๒ กรม คงได้ทางหนึ่ง เสียทางหนึ่ง

                   มีพระบรมราชประสงค์จะให้ราชการเปนไปสะดวก ทั้งจะให้สมแกทรงเปนพุทธศาสนูปถัมภก
                   โดยตรง จึงมีพระบรมราชโองการด�ารัสเหนือเกล้าให้ย้ายกรมธรรมการมารวมอยูในพระราชส�านัก

                   ตามประเพณีเดิม สวนกระทรวงธรรมการให้เรียกวา กระทรวงศึกษาธิการ มีหน้าที่จัดการศึกษา”

                                                                                                        57
                                                                                          วันศาสนูปถัมภ พ.ศ. ๒๕๖๐
   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68   69