Page 8 - ธรรมะจากธรรมาสน์ เล่ม ๓
P. 8

ธรรมะจากธรรมาสน เลม ๓



          ท�าบุญชิงเปรต ส่วนภาคอีสานตะวันออกเฉียงเหนือเขาก็เรียกว่า ท�าบุญข้าวสารท ทั้งนี้

          มีจุดประสงค์เพื่อแสดงออกถึงความกตัญูที่มีต่อญาติพี่น้องที่ล่วงลับไปแล้ว โดยเริ่มตั้งแต่
          สมัยสุโขทัยจนถึงทุกวันนี้ เมื่อถึงเดือน ๑๐ ชาวไทยก็จะน�าอาหารในฤดูสารทตามประเพณี

          ที่เคยท�ามา แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มเติมบ้าง เช่น อาหารที่ท�าในฤดูสารทเขาก็เอา

          ข้าวกระยาสารท ค�าว่า กระยา แปลว่า เครื่องสิ่งของ เครื่องกิน ดังนั้นค�าว่า กระยาสารท นี้

          และเครื่องปรุงขนมกระยาสารทในสมัยปัจจุบัน อาจจะมีการเพิ่มเติมมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย
          จะมีข้าวเม่า มีข้าวตอก มีน�้าผึ้ง มีน�้าอ้อย มีน�้าตาลและมีนมสด กวนให้เข้ากันเป็นกระยาสารท

          แต่ในปัจจุบันนี้ก็มีการเพิ่มเติม มีการใส่ถั่วลงไป ใส่งาลงไป ผสมให้เข้ากันก็เป็นขนม

          กระยาสารท การท�าบุญในวันสารทนี้ ชาวอีสานตะวันออกเฉียงเหนือ เรียกว่า ท�าบุญข้าวสารท

          แต่เขาจะเริ่มกลางเดือน ๑๐ เพราะเขาถือว่า กลางเดือน ๑๐ นี้ เป็นวันที่ผีและญาติมารอคอย
          เมื่อผู้ใดไม่ท�าบุญข้าวสารทถือว่า ผู้นั้นขาดความกตัญูต่อบิดามารดาและญาติพี่น้อง

          ที่ล่วงลับไปแล้ว และจะได้รับความเดือดร้อนเพราะพวกผีที่ล่วงลับดับไปจะให้โทษ การท�าบุญ

          ในวันสารทนี้ถือว่า เป็นการท�าบุญพิเศษในระหว่างครึ่งปีด้วย เพราะในสมัยโบราณนับว่า

          เดือน ๕ เรียกว่า เดือนต้น เดือน ๑๐ เป็นเดือนที่ ๖ ก็คือ กึ่งปีครึ่งปีเข้าไปแล้ว ดังนั้นการ
          ท�าบุญวันสารทจึงนับว่า เป็นการท�าบุญในระยะที่ชีวิตเรานั้นล่วงไปถึงครึ่งปีแล้ว เป็นการเตือน

          ไม่ให้ประมาทในชีวิต ตามที่อาตมาได้น�าประวัติความเป็นมาของประเพณีการท�าบุญ

          ในสารทไทยมาพรรณนาให้ญาติโยมได้ฟังหวังว่า ท่านทั้งหลายคงจะได้เข้าใจแล้ว ประเพณี

          ท�าบุญวันสารทไทยนี้มีมาตั้งแต่ช้านาน เราได้แบบอย่างมาจากประเทศอินเดียท�าขึ้น
          ในประเทศไทยสืบมาจนถึงทุกวันนี้

                  ล�าดับต่อไปนี้ อาตมภาพจะได้พรรณนาถึงอานิสงส์แห่งการท�าบุญในวันสารท

          ให้ท่านสาธุชนทั้งหลาย ได้สดับรับฟังต่อไป ส�าหรับอานิสงส์แห่งการท�าบุญในวันสารทนี้

          เมื่อประมวลมากล่าวที่ใจความส�าคัญมีอยู่ ๓ ประการ คือ
                  ๑. เปนการท�าบุญถวายทานแด่พระภิกษุสงฆ์

                  ๒. เปนการท�าบุญอุทิศให้แก่บุพเปรตชน

                  ๓. เปนการสงเคราะห์เอื้อเฟอต่อกัน

                  ประการที่ ๑ ที่ว่า เปนการท�าบุญถวายทานแด่พระสงฆ์นั้น หมายความว่า เทศกาล
          เดือน ๑๐ นี้ ท่านพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย ชาวพุทธเราก็ได้จัดการท�าบุญเป็นพิเศษขึ้น

          โดยได้ท�าทานพิเศษในเดือนนี้ ก็คือ ข้าวกระยาสารทมาถวายแด่ พระภิกษุสงฆ์เพื่อเป็น




         2
   3   4   5   6   7   8   9   10   11   12   13