Page 25 - ธรรมะจากธรรมาสน์ เล่ม ๓
P. 25

ธรรมะจากธรรมาสน เลม ๓



              ท�าอย่างไร การบูชา ก็คือ เราควรท�าความเคารพให้เกียรติทั้งต่อหน้าและลับหลังด้วย

              ถ้าหากว่า ท�าต่อหน้าอย่างเดียว โบราณท่านบอกว่า หน้าไหว้หลังหลอกไม่เกิดประโยชน์
              แต่ถ้าหากเราท�าลับหลังด้วย ท่านบอกว่า จะเป็นอนุสติเตือนใจให้เราผู้ที่ท�าการบูชานั้น

              ทั้งท�าต่อหน้าและลับหลังได้ถือเป็นแบบอย่าง แบบอย่างอย่างไร เช่น บูชาพระพุทธ

              พระธรรม พระสงฆ์ เราเอามาเป็นพุทธานุสติ เตือนใจให้เราไม่ประมาทในชีวิต บูชาพ่อแม่

              ครูบาอาจารย์ พระมหากษัตริย์ เราบูชาคุณธรรมคุณงามความดีของท่าน เราจะได้น�ามา
              เป็นต้นแบบในการด�าเนินชีวิต เพราะฉะนั้นแล้ว บูชาที่ว่านี้ พระพุทธเจ้าจึงตรัสว่า

              มี ๒ ประการ คือ

                      ๑. อามิสบูชา ท่านทั้งหลายรู้กันดีอยู่แล้ว อามิสบูชา ก็คือ บูชาด้วยอามิสสิ่งของ
              ธูป เทียน ดอกไม้

                      ๒. ปฏิบัติบูชา ก็คือ การปฏิบัติตามหลักธรรมด้วยค�าสั่งสอนด้วย

                      รวมความว่า การบูชาในพระพุทธศาสนาของเรา มี ๒ ประการ คือ อามิสบูชาและ

              ปฏิบัติบูชา แต่ว่าในปัจจุบันนี้ การบูชาที่ว่านั้น สิ่งที่แสดงออกถึงการบูชาได้ดีที่สุดและ

              เป็นรูปธรรมที่เรามองเห็นนั้นคืออะไร การบูชาที่เรามองเห็นได้ชัดเจนที่สุด ก็คือ การแสดง
              ความเคารพ คือ การกราบการไหว้ การกราบการไหว้นี้ เราควรท�ากันอย่างไร ท่านผู้รู้กล่าว

              ไว้ว่า ถ้าหากว่า เราเป็นชาวพุทธแล้วเป็นผู้น้อยเราต้องคอยท�าการบูชา ถ้าหากว่า บูชาไม่เป็น

              เป็นชาวพุทธกราบไม่เป็นไหว้ไม่เป็น กราบพระพุทธ กราบไม่เป็น ก็กราบถูกแค่ทองค�า

              โบราณท่านว่าไว้ กราบพระธรรม กราบไม่เป็นก็ถูกแค่ใบลาน กราบพระสงฆ์ กราบไม่เป็น
              ก็ถูกแค่ลูกชาวบ้าน ท่านพูดไว้อย่างนี้ ถ้าเราลองไปตีความดูก็น่าจะจริง เพราะว่า ถ้าเรา

              กราบพระพุทธ กราบไม่เป็นกราบอย่างไร กราบอย่างที่เราเห็นในสังคมไทยในปัจจุบัน คือ

              กราบสักแต่ว่ากราบ ไม่ได้กราบด้วยใจ ถ้ากราบด้วยใจสังคมไทยประเพณีไทยหรือวัฒนธรรม

              เรียกว่า กราบแบบเบญจางคประดิษฐ์ เบญจางคประดิษฐ์ ก็คือ เข่า ๒ ศอก ๒ หน้าผาก ๑
              เหตุก็เพราะว่า เราเข้าใจกันอยู่ว่ากราบแล้ว ก็คือ กราบ แต่ถ้ากราบกันแบบนี้ กราบถูกแค่

              ทองค�า ทองค�า ก็คือ ทองเปลวที่ปิดพระพุทธรูป เรากราบถูกแค่นั้น เราไม่ได้กราบลึกเข้าไป

              ในหัวใจให้เป็นมงคล เพราะพระพุทธเจ้าตรัสบอกว่า สิ่งที่เป็นมงคล ก็คือ สิ่งที่น�าความ

              เจริญมาให้ชีวิตและที่ส�าคัญที่สุด มงคลที่ว่านี้ เป็นมงคลภายใน ก็คือ มงคลทางใจของเรา
              ถ้าหากว่า ใจของเราไม่ท�าตามแล้ว สักแต่ว่า กิริยาภายนอก ไม่ถือว่าเป็นการบูชาแต่

              ประการใด เพราะฉะนั้นรวมความว่า กราบพระพุทธเจ้า กราบพระพุทธรูป กราบให้เป็น




                                                                                                19
   20   21   22   23   24   25   26   27   28   29   30