Page 201 - รายงานผลการประชุมเชิงปฏิบัติการ ผู้บริหารศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ๑๘ ภาคคณะสงฆ์ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๓
P. 201

ศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ถ้าเปรียบเสมือนโรงเรียน อันดับแรก ต้องมีทะเบียน คือ
             ใบอนุญาตนั่นเอง ตั้งแต่ปีไหน มีใบอนุญาตอยู่ ทำสมุดแล้วเอาใบอนุญาตที่ว่านี้มาแปะใส่ไว้และเขียน

             หรือพิมพ์ลงไปว่าทะเบียนศูนย์วันอาทิตย์ และจัดทำตารางทะเบียนครูศูนย์ ลำดับที่ ๑ ช่องที่ ๒
             ชื่อ สกุลนายปรีชา เทพแก้ว วุฒิปริญญาโท เพื่อให้รู้ว่าในปีนี้เรามีครูกี่คน กี่รูป ต่อจากทะเบียนครูแล้ว
             จัดทำทะเบียนผู้ทำคุณประโยชน์ศูนย์ฯวันอาทิตย์ และจัดทำสมุดเยี่ยม เพื่อเป็นหลักฐาน เรื่องสำคัญ
             ก็คือเรื่องการเงินต้องสอบถามกับหัวหน้าการเงินหรือเจ้าหน้าที่การเงินและบัญชีของสำนักงาน ทำให้

             มีทั้งรายรับ-รายจ่าย รายรับวันเดือนปีช่องแรก รายการรับเงินอุดหนุนประจำปีงบประมาณ  ๕๓
             เอายอดนั้น มาลงว่าได้รับมา ๕๐๐,๐๐๐ บาท พอรับมา ๕๐๐,๐๐๐ บาท ก็ใส่ในช่องรายรับ ต่อไป
             ช่องรายจ่าย จะเป็นค่าไฟ จ่ายค่าไฟไป ๒๐,๐๐๐ เมื่อกี้รับไป ๕๐๐,๐๐๐ จ่ายไปแล้ว ๒๐,๐๐๐ ก็ลบ
             ก็คงเหลือ ๔๘๐,๐๐๐ ฉะนั้นเราจะรู้ตลอดขณะนี้เราเหลือเงินอยู่เท่าไร เรามีเงินอยู่เท่าไร และควรจะมี

             ป้ายนิเทศ ป้ายบอกสถิติข้อมูลของศูนย์พระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ตรงนี้มีระเบียบกรมการศาสนา
             ว่าด้วยศูนย์วันอาทิตย์ปี พ.ศ. ๒๕๕๐ ได้บังคับไว้ว่าจะต้องทำตามนี้ ทั้งหลายทั้งปวงนี้คือหลักฐาน
             ที่ศูนย์ฯ วันอาทิตย์จะต้องทำไว้ หลักฐานบางอย่างทำไม่ยาก
                      วิธีวัดผล ไม่ต้องใช้กระดาษสอบก็ได้ ให้ครู ๒ คนเป็นคนวัดผลแค่นั้น ว่าเรียนทำพานพุ่มทำได้

             สวยไหม  ถ้าสวยก็ผ่าน  ๒  วิชาแล้ว  มีไปร่วมกิจกรรมไหม  ถ้ามีก็ผ่านเลย  ๓  วิชา  พอจบเอา
             ประกาศนียบัตรไป หลักก็คือต้องสอบชั้นตรี ชั้นโท ชั้นเอก ให้ได้ ส่วนวิชาเลือกให้ ๒ คนเป็นอย่างน้อย
             เป็นกรรมการประเมิน แต่จะให้ดีจัดสอบเป็นกระดาษ ก ข ค ง ถูกผิดอะไรก็สุดแท้ ให้ทำง่าย ๆ อย่างที่
             กระผมว่าตั้ง ๒ คนหรือว่า ๓ คนเป็นประธาน กิจกรรมเสร็จเรียบร้อยได้ ๓ ส่วน ให้ประกาศนียบัตรได้

             เลย ประกาศนียบัตรผู้ว่าราชการจังหวัดและประธานศูนย์หรือผู้อำนวยการ ศพอ. เป็นคนลงนาม

             นายพะเยาว์ รุ่งไทย
             ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์เรือนจำจังหวัดสุโขทัย

             
        เยาวชนปัจจุบันส่วนมากไม่ค่อยจะเชื่อพ่อแม่ มักจะเชื่อเพื่อนมากกว่า เพราะว่าพ่อแม่ทะเลาะกัน
             ผมขอให้พระคุณเจ้าถ้ามีโอกาสลองแนะนำครอบครัวโดยเฉพาะพ่อแม่เวลาทะเลาะตบตีกัน อย่าให้
             ลูกเห็นเป็นอันขาดเลย ภาพที่พ่อแม่ตบตีกันฝังใจเด็ก มีลูกน้องของผมเล่าให้ฟังอยู่บ้านเหมือนกับ
             อยู่นรก พ่อกินเหล้าเมา แม่ไปเที่ยวนอกบ้าน กลับมาแล้วลูกมาเจอพ่อเจอแม่ทะเลาะกัน เขาเลยออก

             จากบ้านไปอยู่กับเพื่อน เขาบอกไปอยู่กับเพื่อนแล้วสบายใจ ไม่อยากกลับบ้านเวลาพ่อแม่ตบตีกัน
             เขาบอกว่าจนเดี๋ยวนี้เขาอายุ ๓๐ แล้ว เขาเข้าคุกประมาณ ๓-๔ ครั้ง ภาพที่พ่อแม่ตบตีกันมันฝังจิตใจ
             ของเขาตลอด และส่วนมากจะคดีเกี่ยวกับยาเสพติด เพราะฉะนั้นตรงนี้ผมขอกราบเรียนพระคุณเจ้า
             ช่วยแนะนำพ่อแม่ อย่าทะเลาะและก็อย่าตบตีกันต่อหน้าลูก มีอะไรก็ไปคุยกันเงียบ ๆ ให้พ้นหน้าลูก

             อยากจะให้พระคุณเจ้าเน้นย้ำลูกศิษย์ของเราที่สอนธรรมะอธิบายให้เขาฟังว่าศีลเป็นยังไง เราส่วนมาก
             จะแปลว่าห้าม เวรมณีคือเจตนาเป็นเครื่องงดเว้น พระพุทธเจ้าไม่ได้ห้ามใคร คือเจตนาเป็นเครื่องงดเว้น
             อธิบายให้เด็กฟังว่าศีลเปรียบเสมือนเครื่องประดับที่ประเสริฐสุดในเครื่องประดับทั้งหมดทั้งปวงและ
             ก็ไม่มีโทษมีแต่คุณอย่างเดียว ไม่เหมือนกับเครื่องประดับอย่างอื่นเช่นทองคำ สร้อยคอทองคำอะไรก็ตาม



                               รายงานผลการประชุมเชิงปฏิบัติการผู้บริหารศูนย์ศึกษาพระพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ๑๘ ภาคคณะสงฆ์
   196   197   198   199   200   201   202   203   204   205   206